วิสัชนา โดย ว วชิรเมธี
(๑) ต้องรู้ทันสัจธรรมซึ่งถือเป็น “กติกา” ของโลกใบนี้ก่อนว่า การนินทานั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็ต้องพบเจอกันทั้งนั้น พระพุทธองค์จึงตรัสว่า “นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต” (ไม่มีใครในโลกที่ไม่ถูกนินทา) ถ้าคุณอยู่ในโลก หรือต่อให้นอกโลกอย่างที่ครั้งหนึ่ง เอ็ดวิล อันดริล นักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่า ซึ่งขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์ ร่วมกับนีล อาร์มสตรอง กลับลงมาถึงพื้นดินแล้ว เขาก็ยังคงถูกนินทา นักข่าวคนหนึ่งนินทาออกมาดังๆ จนเขาได้ยินกับหูว่า “คุณอันดริลคะ คุณไม่เสียใจหรือ ที่อุตส่าห์ขึ้นไปจนถึงดวงจันทร์ แต่คุณกลับไมได้เหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรก รู้ไหมว่าเขาตอบว่าอย่างไร เขาตอบจนนักข่าวคนนั้นหน้าหงายไปเลยว่า “ทำไมผมจะต้องเสียใจ เพราะผมเป็นมนุษย์จากดวงจันทร์คนแรกที่มาเหยียบโลกนี้เชียวนะ” เท่านั้นเอง วงสนทนาก็ฮาครืน และคนช่างจ้อคนนั้นก็ต้องปิดปากตัวเองไปสนิท หากคุณอยู่ในโลก็จงทำใจว่า การนินทาเป็นธรรมดาของโลกนี้ นอนอยู่ในบ้านเฉยๆ เขาก็นินทนา ออกไปทำงานเขายิ่งนินทา คนตายแล้วก็ยังไม่วายถูกนินทา พระเยซูเจ้า ผู้ซึ่งเป็นยอดคนๆ หนึ่งของโลก ก็ยังถูกนินทาถึงชาติกำเนิดของพระองค์ นินทาหนักเข้า “แดน บราวน์” นักเขียนระดับโลกก็หยิบมานินทาอย่างเป็นทางการในนิยายเรื่อง “รหัสลับดาวินชี” ขายดีไปกว่า ๔๐ ล้านเล่มทั่วโลก คิดดูก็แล้วกันว่า วัฒนธรรมการนินทานั้น เป็นที่สนใจใฝ่รู้ของชาวโลกจนาดไหน และเป็นเรื่องที่มีข้อยกเว้นเสียเมื่อไหร่ล่ะ ถ้าคุณอยู่ในโลก แล้วไม่ถูกนินทนา จึงนับว่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ ๘ ของโลกแล้ว
(๒) การที่เราถูกนินทา ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เราสามารถหยิบมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ทั้งนั้น พระพุทธศาสนาสอนว่า เวลาที่เราถูกนินทาให้มองว่า คนที่นินทานั้น เขากำลังชี้ขุมทรัพย์ให้เรา เพราะเขาช่วยให้เรามองเห็นตัวเองชัดเจนยิ่งขึ้น บางครั้งสิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราทำด้วยความมั่นใจว่าดีนักหนานั้น หากมองด้วยสายตาคนอื่น บางทีก็ไม่ดีมากนัก และเมื่อคนที่เห็นข้อบกพร่องของเรา มาชี้ให้เราเห็น นี่จึงนับเป็นการชี้ขุมทรัพย์ที่ล้ำค่าโดยแท้ คุณต้องรีบขอบคุณเขาจากใจใจ แต่ถ้าหากมันไม่จริง ก็อย่าเสียใจ ควรมองต่อไปว่า อย่างน้อยก็ยังมีคนสนใจความเป็นไปในชีวิตของฉัน ฉันเองคงเป็นคนไม่ไร้ค่า เพราะหากไม่มีความหมาย ใครล่ะเขาจะมาสนใจ
(๓) ชีวิตคนเราจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราเป็นสำคัญ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปากคนอื่นสักกี่มากน้อย ดังนั้น ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณเป็นคนดี ก็จงใช้ชีวิตของคุณไปตามปกติ อย่ากังวลต่อคำนินทามากนัก เราอยู่ในโลกกันคนละไม่กี่นาที ถ้ามองในมิติเวลาของประวัติศาสตร์โลก มนุษย์เพิ่งมาถึงโลกนี้เมื่อวาน และวันพรุ่งนี้ คุณก็ต้องไปจากโลกนี้แล้ว (อย่าลืมว่าโลกอายุเป็นล้านล้านปี,มีมาก่อนมนุษย์อย่างเราๆ กี่เท่าตัว) ด้วยเวลาอันแสนจำกัดยิ่งนี้ คุณควรจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด กับสิ่งที่มีความหมายต่อชีวิตมากที่สุด คำนินทานั้น ไม่ต่างอะไรกับสายลม ไม่มีตัวตน แม้จะทำให้เราร้อน หนาวบ้าง แต่เมื่อผ่านมาแล้วก็จะผ่านเลยไป เราอย่าปล่อยให้สายลมแห่งการนินทาหอบเอาชีวิตและวันเวลาของเรา “ปลิว” หายไปกับเรื่องไร้ค่าเช่นนั้นเลย
|