พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎก
เอกทุสสทายกเถราปทานที่ ๒ ว่าด้วยผลแห่งการถวายผ้าเป็นพุทธบูชา
[๑๒] เราเป็นคนเกี่ยวหญ้าขายอยู่ในพระนครหงสวดี เลี้ยงชีพด้วยการ เกี่ยวหญ้า เลี้ยงดูเด็กๆ ก็ด้วยการเกี่ยวหญ้านั้น พระชินเจ้าพระนามว่า ปทุมุตระ ผู้รู้จบธรรมทั้งปวง เป็นนายกของโลก เสด็จอุบัติขึ้น กำจัดความมืดมนให้พินาศ ครั้งนั้นเรานั่งอยู่ในเรือนของตน คิดอย่างนี้ว่า พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแล้วในโลก ไทยธรรมของเราไม่มี เรามีแต่ผ้าสาฎกผืนเดียวนี้ ไม่มีใครจะให้เรา การถูกต้องนรกนำความทุกข์มาให้ เราจะปลูกฝังทักษิณา
ครั้น คิด ได้เช่นนี้แล้ว เราจึงได้ยังจิตของเราให้เลื่อมใส ได้ถือผ้าผืนหนึ่งไปถวายแด่พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ครั้นถวายผ้าแล้วได้ประกาศ เสียงก้องว่า ข้าแต่พระมหามุนีวีระเจ้า ถ้าพระองค์เป็นพระพุทธเจ้าก็ขอทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ให้ข้าด้วยเถิด พระพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตระ ทรงรู้แจ้งโลก ผู้สมควรรับเครื่องบูชา เมื่อจะทรงประกาศทานของเรา ได้ทรงทำอนุโมทนาแก่เราว่า ด้วย การถวายผ้าผืนหนึ่งนี้ และด้วยความตั้งเจตนาไว้ บุรุษนี้จะไม่ไปสู่วินิบาตเลยตลอดแสนกัป เขาจักได้เป็นจอมเทพเสวยราชสมบัติในเทวโลก ๓๖ ครั้ง จักได้เป็น พระเจ้าจักพรรดิราช ๓๓ ครั้ง และจักได้เป็นพระเจ้าประเทศราช อันไพบูลย์โดยคณนานับมิได้ เมื่อเธอท่องเที่ยวอยู่ในภพ คือ ในเทวโลกหรือมนุษย์โลก จักเป็นผู้มีรูปสวยงาม สมบูรณ์ด้วยคุณ มีกายสง่า จักได้ผ้าร้อยล้านแสนโกฏินับไม่ได้ ตามความปรารถนาครั้นพระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ ผู้เป็นนักปราชญ์ตรัสดังนี้แล้ว ได้เสด็จเหาะขึ้นสู่อากาศเหมือนพญาหงส์ในอัมพร ฉะนั้น เราเข้าถึงกำเนิดใดๆ คือ เป็นเทวดาหรือมนุษย์ ในกำเนิดนั้นๆ เราไม่มีความบกพร่องในโภคสมบัติเลย นี้เป็นผลแห่งผ้าผืนหนึ่ง ผ้าเกิดแก่เราทุกๆ ย่างก้าว ข้างล่างเรายืนอยู่บนผ้า ข้างบนเรามีผ้าเป็นเครื่องบัง ทุกวันนี้จักรวาลพร้อมทั้งป่า ภูเขา เมื่อเราปรารถนาจะถือเอา ก็พึงคลุมได้ด้วยผ้า เพราะผ้าผืนเดียวนั่นแหละ เมื่อยัง ท่องเที่ยวอยู่ในภพน้อยใหญ่ เราเป็นผู้มีผิวพรรณเหมือนทองคำท่องเที่ยวไปในภพน้อยใหญ่ เราได้ถึงความเป็นภิกษุเพราะวิบากแห่งผ้าผืนเดียว ถึงชาตินี้จะเป็นชาติสุดท้าย แม้ในชาตินี้ผ้าก็ยังให้ผลแก่เราอยู่ ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้ถวายผ้าใดในกาลนั้น ด้วยการถวายผ้านั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งผ้าผืนเดียว เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.ทราบว่า ท่านพระเอกทุสสทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
|